รีวิว Awakening Bangkok 2025 พิกัดถ่ายรูปงานไฟส่งท้ายปี เข้าชมฟรี!
เติมไฟส่งท้ายปีกับ Awakening Bangkok 2025 เทศกาลไฟประจำปีของกรุงเทพฯ ที่กลับมาพร้อมเปิดไฟสร้างสีสันให้ย่านเมืองเก่าอีกครั้ง เตรียมตัวไปเดินรับลมเย็นช่วงปลายปี พร้อมดื่มด่ำกับงานศิลปะแสงไฟและดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟสุดล้ำตลอด 10 วันจัดงาน ปีนี้งานมาในธีมสุดเก๋ไก๋ว่า LOVEVERCITY (เลิฟ-เอเวอร์-ซิตี้) ซึ่งจะชวนทุกคนมาสำรวจเรื่องความรักในเมืองในรูปแบบต่างๆ ผ่านผลงานศิลปกรรมสุดสร้างสรรค์มากมาย
โดยจะจัดแสดงทั่วย่านเก่าในเขตพระนคร ซึ่งมีการปรับเส้นทางให้เดินเล่นสนุกยิ่งขึ้น! โดยในครั้งนี้จัดในสามพื้นที่เดิม ได้แก่ “ปากคลองตลาด” (และยอดพิมานริเวอร์วอล์ก) และ “สามยอด” (ในสวนรมณีนาถ) และยังเพิ่มพื้นที่ใหม่ๆ คือ “สะพานพุทธ” บริเวณท่าเรือ แถวไปรษณียาคาร และ “วังบูรพา” ซึ่งมีชิ้นงานกระจายตัวทั้งที่ ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า สะพานหัน และคลองโอ่งอ่าง ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวชมงานไฟสุดอลังการนี้ ลองมาดูรีวิวชิ้นงานเด็ดๆ ที่เราได้ไปเก็บภาพมาฝากกันเลยครับ
รีวิวชิ้นงานไฟAwakening Bangkok 2025 ที่ได้ไปดูมา

ผมสตาร์ทที่ MRT สนามไชย เริ่มที่ตรงท่าเรือราชินีกับชิ้นงาน (1) HEART OF DIVERSITY หัวใจนโทนสีแห่งไพรด์ ที่สื่อถึงความรักที่หลากหลายและเท่าเทียม แล้วก็เดินมาที่ ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ก มีหลายชิ้นงานมากครับ เป็นจุดรวมชิ้นงานอินเทอร์แอคทีฟสุดน่ารัก ผมได้ชมไป 4 ชิ้น

(8) BOB the lovely guy
ไฮไลท์คือ แค่กอด น้องก็จะเปลี่ยนเป็นสีชมพู สะท้อนความรักที่เบ่งบานอัดแน่นอยู่ข้างใน ใครเป็นแฟนคลับน้อง BOB ต้องไปถ่ายรูปคู่กับน้องให้ได้นะครับปีนี้น้องกลับมามอบความรักผ่านอ้อมกอดอุ่น ๆ กอดปุ๊บ ชมพูปั๊บ

(9) เติม “รัก” และ HUG มั๊ย???
ชิ้นงานนี้ชวนให้เรากลับไปสัมผัสความรู้สึกของการ “กอด” อีกครั้ง ซึ่งเป็นการสื่อสารความรักที่ลึกซึ้งโดยไม่ต้องใช้คำพูด ทุกสัมผัสกอด จะกระตุ้นแสงที่แตกต่างกันออกมา

(6) THE FLOWER BLOOMING (ดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน)
ไฟสวยมากครับ คือเราจะต้องไปหมุนดอกไม้ให้เปล่งแสงและเบ่งบาน ความงามจะสมบูรณ์เมื่อทุกคนมีส่วนร่วม ทำให้รู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ ผลิบานไปพร้อมกัน

(10) หยุดเวลา ณ กลางกรุง
เป็นชิ้นงานที่ให้เราได้มองวิวผ่านผ้าขาวที่เต็มไปด้วยแสง และเพิ่มความสวยงามด้วยฟิลเตอร์ จุดนี้เปรียบเสมือนจุดหยุดพักจากความวุ่นวายในตัวเมือง แล้ววิวกลางคืนสวยมาก

(4) ก่อนจะสายไป… (BEFORE WORDS FADE AWAY)
ข้ามมาอีกฝั่งที่ตลาดยอดพิมาน ส่วนตัวชิ้นงานนี้ทัชใจมากครับ เพราะนำเสนอ “ความรักของครอบครัว” ที่เรียบง่าย มั่นคง ผ่านคำพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น “กินข้าวแล้วหรือยัง” แล้วคือเป็นข้อความที่เราคุ้นหูทั้งนั้น คำธรรมดา แต่มันมีความหมายลึกซึ้งที่ชวนให้เราตระหนักถึงคุณค่าของคำบอกรักเหล่านี้อีกครั้ง เพราะวันหนึ่งคำพูดเหล่านี้ก็จะกลายเป็นเพียงความทรงจำ
3 ชิ้นงานไฟที่ สวนรมณีนาถ
ไปกันต่อครับ ในสวนรมณีนาถ เป็นอีกหนึ่งจุดที่มีชิ้นงานไฟให้เราได้ชมกันถึง 3 ผลงาน

(26) LOVE(N) GARDEN ความรัก และสวนพฤกษา
งานชิ้นนี้ตั้งอยู่ในสวน ให้บรรยากาศสบายๆ โดยถ่ายทอดการเดินทางของความรักในหลากหลายรูปแบบ ผ่านสัญลักษณ์ของดอกไม้และต้นไม้แห่งจิตใจ ที่หัวใจแต่ละดวงเปล่งประกายในแบบของตัวเอง

(24) SEND LOVE (ประภาคารส่งรัก)
ส่งต่อข้อความจากใจ ให้ความรู้สึกของคุณได้เดินทางไปสู่คนที่นึกถึงบนประภาคาร

(25) STEP TO SPARK
เป็นจุดสุดท้ายที่ได้เดินชมครับ สวนนี้ร่มรื่นและงานไฟก็สวยงามมากจริงๆ ซุ้มหัวใจที่จะเปลี่ยนสีเมื่อมีคนเข้ามายืนเคียงข้าง ราวกับใจกำลังสื่อถึงกัน
เช็คอินย่านใหม่ใน Awakening Bangkok 2025
ถ่ายรูปไฟสุดปังกันต่อ ถัดจากชิ้นงานที่ 4 ผมก็เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงสะพานพุทธครับ มีชิ้นงานไฟที่ซ่อนตัวอยู่ที่ ท่าเรือสะพานพุทธ รวมถึงหน้าตึก ไปรษณียาคาร และ สวนพระปกเกล้า

(12) พราวแสง PROUD-SAENG
ชิ้นงานนี้อยู่ท่าเรือสะพานพุทธ บรรยากาศตอนกลางคืนคือสวยมาก เป็นผลงานที่ชวนทุกคนปรับโหมดเร่งรีบให้ช้าลง มองสิ่งรอบตัวอย่างตั้งใจ และรับรู้ถึงความอบอุ่นของการอยู่ร่วมกันภายใต้แสงเดียวกัน

(15) From HERE For YOU
ในยุคที่ยังไม่ไฮสปีด เรายังใช้ “จดหมาย” ในการสื่อสาร ข้อความที่ผ่านการกลั่นกรอง ยุคนั้นก็คลาสิคเหมือนกันนะ ชิ้นงานนี้อยู่บริเวณตึกไปรษณียาคาร ที่ถ่ายทอดผ่านลวดลายแสตมป์ของตนเอง

(14) WHERE WE GLOW
ตรงสวนพระปกเกล้า จะมี 2 ชิ้นงานนะครับ เป็นผลงานที่เต็มไปด้วย “หัวใจ” เรืองแสง ที่สื่อถึงการเชื่อมโยงส่งต่อถึงดวงใจอื่น ๆ ราวกับใจของผู้คนที่สื่อถึงกัน แม้จะมองไม่เห็น แต่เชื่อมโยงกันเสมอ

(13) …
เดินถัดไปอีกชิ้นงานครับใกล้ ๆ กันเลย เป็นผลงานที่ได้แรงบันดาลใจจากหนังสือ “ปาฏิหาริย์บันทึกรัก (The Notebook)” โดย นิโคลัส สปาร์กส์ เป็นพื้นที่ที่ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ “ความเงียบ” และถ้ามีเสียงดังเล็ดลอดเข้ามา จะเกิดภาพ สายฟ้าฟาด
ยังไม่หมดครับ อีกย่านใหม่ในปีใหม่อย่าง วังบูรพา ก็มีชิ้นงานไฟกระจายตัวทั้งที่ ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า สะพานหัน และคลองโอ่งอ่าง

(16) หวานเป็นลม ขมเป็นยา BITTER SWEET
ชิ้นงานนี้อยู่ใน หอมปรุงบายใบห่อ ใครแวะมาที่ร้านหอมปรุงอย่าลืมแวะชมชิ้นงานนี้ด้วยนะครับ เป็นการสะท้อนประสบการณ์ร่วมของผู้คนที่มีต่อยาแผนโบราณของไทย ให้เราได้หยุดพัก ผ่อนคลาย ไปกับกลิ่นสมุนไพรภายในห้างขายยาตราใบห่อ ดังสุภาษิต “หวานเป็นลม ขมเป็นยา”

(17) AMA LIGHT PASSAGE (ตรอกแห่งแสงที่เต้นตามหัวใจ)
ชิ้นงานถัดมาบริเวณ สะพานหัน คลองโอ่งอ่าง บริเวณตรอกเล็กของ AMA Hostel เต็มไปด้วยโคมไฟเปลี่ยนสีราวกับจังหวะหัวใจที่เต้นอย่างอ่อนโยน แสงแดง-ม่วง-น้ำเงินคือความสงบของการรักตัวเอง แสงแดง-ส้มคือความอบอุ่นของการแบ่งปัน และแสงทองคือการโอบรับเมืองทั้งเมืองด้วยความรัก ใครอยากถ่ายภาพแสงไฟที่เคลื่อนไหวได้ ต้องมาตามหาตรอกแสงที่ว่ากันว่าเต้นตามจังหวะหัวใจนี้ให้เจอ

(18) HEART OF THE ALLEY (หัวใจที่กลางซอย)
อยู่ตรงกลางซอย อยู่ที่ซอยกลาง ที่ถูกเนรมิตให้เป็น “พื้นที่แห่งหัวใจ” ผ่านเส้นแสงรูปหัวใจที่แขวนลอยอยู่เหนือผู้ชม ไล่เฉดสีแทนความหลากหลายของความรัก ตั้งแต่ความอบอุ่น ความคิดถึง ไปจนถึงความอ่อนโยนต่อผู้คนรอบข้าง

(19) AFTERBLOOM
ชิ้นงานนี้อยู่ที่โรงภาพยนตร์ควีนส์ สื่อถึงวงจรของดอกไม้ที่มีทั้งงอกงาม เสื่อมสลาย และซ่อมแซมได้ ก็เช่นเดียวกับความรัก ในช่วงแรกมันอาจเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความสดใส และความหลงใหล แต่เมื่อเวลาผ่านไป ย่อมมีวันที่เหนื่อยล้า วันที่ไม่เข้าใจกัน หรือวันที่ความเจ็บปวดเกิดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าความรักนั้นตายไปแล้ว เพียงแต่มันต้อง “เปลี่ยนรูป” ต้องไปดูว่าแสงไฟจะเนรมิตอาคารเก่าแก่ให้เป็นอย่างไร
อย่างที่บอกครับว่าย่านวังบูรพามีงานไฟกระจายอยู่หลายจุด ทำให้เดินเล่นสนุกมาก ๆ หลังไปชมชิ้นงานที่ โรงภาพยนตร์ควีนส์แล้ว ไปกันต่อครับที่ The Old Siam Plaza มีให้ชมถึง 4 ชิ้นงาน

(20) แสงขนม ศิลปสยาม
งานไฟ และ ขนมไทยแบบขยายส่วน นำเสนอ ขนมไทย 9 มงคล ในรูปแบบ AR ให้ขนมแต่ละชิ้นทำหน้าที่เป็น “แสง” ที่เปล่งประกายความงดงามของภูมิปัญญาไทย

(21) สิ่งเหล่านั้น…มันอาจจะเป็นความรักก็ได้นะ (It’s Light(ly) to be Love)
สื่อถึงความรักในสามมุมมอง ปล่อยให้แสงนำทาง แล้วเราอาจพบว่า “สิ่งธรรมดา ๆ” รอบตัว ก็อาจจะเป็นความรักก็ได้นะ

(22) YAK-YAI: The Guardian of Timeless Beauty
ยักษ์ใหญ่ ตัวแทนของผู้พิทักษ์ที่ปกป้องความเจริญรุ่งเรือง โดยในชิ้นงาน ยักษ์-ใหญ่ ให้ความรู้สึกทรงพลัง และ ทันสมัย ในเวลาเดียวกัน

(23) LightTheWay
เขาวงกตแสงไฟ ที่มาพร้อมกับคำถามที่คุณต้องนำไปถามกับอีกฝ่าย เดินสัมผัสความงดงามของแสงและเงา และไฟที่เปลี่ยนไปสะท้อนความหลากหลายของอารมณ์
เดินทางไปงาน Awakening Bangkok 2025 ได้อย่างไรบ้าง
แนะนำให้มาโดยรถสาธารณะดีที่สุด สะดวกมากครับ
- รถไฟฟ้า : MRT ลงที่สถานีสถานีสามยอด (ทางออก 1 หรือ 3) หรือ สถานีสนามไชย (ทางออก 1)
- เรือด่วนเจ้าพระยา : ท่าเรือด่วนเจ้าพระยา N7 ลงท่าราชินี
ในงานมีบริการสามล้อชมไฟฟรี ในพื้นที่จัดงาน โดยจะวนเป็นวงกลม เริ่มที่ สวนรมณีนาถ → ดิ โอลด์ สยาม (ฝั่งร้านปืน) → ร้านหอมปรุง (ถนนจักรเพชร) → สวนพระปกเกล้าฯ → MRT สนามไชย

ส่วนใครที่นำรถส่วนตัวมา สามารถนำไปจอดได้ที่
- THE OLD SIAM PLAZA : จอดฟรีเฉพาะช่วงงาน Awakening Bangkok
- YODPIMAN RIVER WALK : 2 ชั่วโมงแรก 40 บาท หรือเหมาจอด 10 ชั่วโมง 100 บาท

Awakening Bangkok 2025
วัน-เวลาจัดแสดง : 12-21 ธันวาคม 2568
เวลา 18:00 – 23:00 น.
ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี
พื้นที่จัดแสดง
- ปากคลองตลาด (ยอดพิมานริเวอร์วอล์ก)
- สามยอด (ในสวนรมณีนาถ)
- สะพานพุทธ (ไปรษณียาคาร, สวนพระปกเกล้าฯ)
- วังบูรพา (ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า, สะพานหัน, คลองโอ่งอ่าง)

ต้องบอกว่า AWKN ในปีนี้ นอกจากจะมีงานไฟสวย ๆ นี่เป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสความสวยงานในย่านเมืองเก่า ผ่านมุมมองใหม่ ๆ ด้วยแสงสีแห่งความรักและการเชื่อมโยง งานมีแค่ 10 วันเท่านั้น ถ่ายรูปให้จุใจจนเมมเต็ม แล้วมาอวดกันในโซเชียลนะ!

