ไทยทำ ไทยดู มาช่วยให้วงการหนังไทยดีขึ้นด้วยกันเถอะ
เป็นอีกประเด็นที่วงการภาพยนตร์ต้องจับตามอง เมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มเครือข่ายผู้ประกอบวิชาชีพภาพยนตร์ เรียกร้องประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ กรณีโรงภาพยนตร์ในประเทศไทย ฉายหนังไทย ในสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ด
อ้างอิงจากข้อมูลเมื่อปี พ.ศ. 2558 ภาพยนตร์ไทยมีส่วนแบ่งตลาดในภาพยนตร์ทั้งประเทศ 18% และในปี พ.ศ. 2559 ภาพยนตร์ไทยมีส่วนแบ่งในตลาดภาพยนตร์ทั้งประเทศเหลือเพียง 13% เท่านั้น โดยภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้าฉายโรงภาพยนตร์ทั้งปีนับถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 245 เรื่อง ในขณะที่ภาพยนตร์ไทยเข้าฉายทั้งปี 38 เรื่อง ทำเงินรวมทั้งสิ้น 565 ล้านบาท โดยประมาณ
แล้วแบบนี้ ในฐานะที่เราเป็นผู้บริโภค เราจะสนับสนุนอุตสาหกรรมหนังไทย ให้ก้าวหน้า และยั่งยืนได้อย่างไร
ขอพื้นที่ หนังฟอร์มเล็ก หนังนอกกระแสดีๆ ได้ฉายในโรงใหญ่บ้าง
“ไม่ใช่เรื่องที่จะขอกันฉันเข้าใจ” เป็นเรื่องที่น่าคิด ว่า ทำไมหนังบางเรื่องที่น่าจะได้ฉายตามโรงใหญ่ กลับไม่ได้ฉาย หรือได้รอบฉายอันน้อยนิด ถ้าเทียบกับรอบฉายในโรงภาพยนตร์แบบ Stand Alone แถมถ้าในช่วง 4 วันอันตราย หนังไม่ทำเงิน ก็จะถูกลดรอบไปเรื่อยๆ เอ๊ะ หรือต้องเป็นหนังที่ผลิตโดยค่ายหนังที่เป็นเจ้าของโรงหนังด้วยนะ ถึงจะได้ยืนโรงฉายนานๆ
หรือจริงๆแล้ว กฏหมายการกำหนด Screen Quota ก็ควรเอามาใช้จริงจัง เสียที
ประเทศอังกฤษ คือประเทศแรกที่มีการบังคับใช้กฏหมายดังกล่าว เมื่อปี 1927 หรือแม้แต่ใน เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น ก็มีการกำหนดใช้กฏหมายนี้ ส่งผลให้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ดีขึ้น มีผู้ผลิตมากขึ้น รวมไปถึงผู้กำกับเจ๋งๆ อีกหลายคน จึงเป็นเรื่องดี ที่อุตสาหกรรมหนังไทย ควรใช้กติกานี้ แบบจริงจัง แต่ทว่าความยากก็เยอะ ทั้งในส่วนของการผูกขาดโรงฉายก็ดี การจำกัดจำนวนที่ชัดเจน หรืออาจจะรวมไปถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ
ถ้าราคาตั๋วถูกลง จะช่วยกระตุ้นการตีตั๋วไปดูในโรงภาพยนตร์ได้หรือไม่
แน่นอนว่าแคมเปญ พวก ดูหนังวันพุธ 100 บาท หรือแม้แต่ใช้บัตรนั่น บัตรนี่ ลดค่าตั๋วครึ่งราคา ฯลฯ อาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นยอด แต่ท้ายที่สุด ถ้าหนังดี ยังไงก็มีคนไปดู แต่สิ่งที่หลายคนคงอยากร้องขอถึงโรงภาพยนตร์โรงใหญ่บางโรงคือ พี่ช่วยลดโฆษณาให้น้อยลงได้ไหมอะ
รีวิวดีแบบนี้ จะไว้ใจได้กา…
หนังดีแค่ไหน แค่ไหนเรียกหนังดี สุดท้ายแล้ว ก็ต้องอยู่ที่กระแส ปากต่อปาก หรือรีวิวตามเพจต่างๆ ประกอบการเสียเงินไปดูด้วยหรือเปล่า อันที่จริง นี่เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้จักรยาน เฮ้ย วิจารณญาณ เพราะนักวิจารณ์แต่ละคน แต่ละเพจ ต่างก็มี “ทัศนคติ” ที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้น การอ่านรีวิว ควรอ่านเพื่อที่จะศึกษาไว้เป็นข้อมูล มากกว่า เชื่อไปหมดทุกสิ่ง
ซื้อแผ่นลิขสิทธิ์..ทำไม แพงก็แพง
ผลงานสร้างสรรค์ต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีต้นทุนทั้งนั้น เป็นเรื่องแปลกมากที่ทำไมหลายคนถึงชอบซื้อแผ่นที่เป็นหนังซูมมาดู คุณภาพก็แย่ แถมไม่ได้อรรถรส แล้วยังเข้าข่าย ละเมิดลิขสิทธิ์ อีกต่างหาก อย่างกรณีล่าสุดที่มีคนเอาดีวีดี “หมู่” พี่โน้ส อุดม มาฉายโดยไม่ได้รับอนุญาติผ่าน เฟซบุ๊กไลฟ์ จนผู้ผลิตต้องออกมาโพสต์ข้อความให้ซื้อสินค้าลิขสิทธิ์ หรือแม้แต่หนังจากค่ายดังทั้งหลาย ก็อัพโหลดให้ได้ดูกันฟรี นี่คือเคสที่ ไม่ใช่เรื่องใหม่ และมีมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีมาตรการที่จะควบคุมได้ หรือมีการปรับอย่างจริงจังเสียที สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ คือการอุดหนุนแผ่นลิขสิทธิ์ตามร้านชั้นนำ พวกบูมเมอแรง, บีทูเอส, CAP หรือแม้แต่ในเซเว่นอีเลฟเว่นก็มีขาย ซึ่งราคาก็ไม่ได้แพงอย่างที่หลายคนคิดหรอกครับ เผลอๆ บางร้านโปรโมชั่นเร้าใจก็มีถมเถ
ดูหนังออนไลน์แบบถูกลิขสิทธิ์ ทางเลือกใหม่ของคอหนัง
ไม่น่ารักเลยนะครับ การที่ไปหาดูหนังในเว็บไซต์ออนไลน์ (ที่ไม่ได้รับอนุญาติ) เดี๋ยวนี้มีผู้ให้บริการดูหนังออนไลน์แบบถูกลิขสิทธิ์มากมายหลายเจ้า ซึ่งราคานั้นก็ไม่กี่ร้อยต่อเดือน ได้ดูหนัง ซีรี่ส์ ไม่อั้น ทั้งในรูปแบบดูผ่านคอม หรือ ทางแอปพลิเคชั่น เผลอๆ บางเจ้ามีละครเก่าๆ เขาก็ผลิตหนังเอง โปรดักชั่นไม่แพ้หนังโรงเลยล่ะครับ
ท้ายที่สุด การบังคับใช้กฎหมายกำหนดสัดส่วนการฉายภาพยนตร์เพื่อกู้วิกฤติหนังไทยจะไม่มีความหมายเลย หากผู้สร้างไม่คิดที่จะพัฒนาคุณภาพของหนังให้ออกมาดีพอ หรือการหามุมมองใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงาน และที่สำคัญการกำหนดโควต้าฉายหนังไทย ให้ได้จำนวนตามที่กำหนด ในบางครั้งเราก็อาจจะเสียโอกาสชมหนังที่คุณภาพดีกว่า จากต่างประเทศ หรือแม้แต่หนังฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ด ด้วย เป็นเรื่องที่น่าคิดอยู่เหมือนกัน
Original Link
http://www.busybacon.com/time-to-support-thai-movies
อ้างอิงข้อมูล
ข้อเรียกร้องของกลุ่มเครือข่ายฯ ภาพยนตร์ต่อประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ โดย MThai.com
สกู๊ปข่าวจาก ไทยพีบีเอส หัวข้อ “สัดส่วนภาพยนตร์” กับความหลากหลายของวงการหนัง คลิก
อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติม จากแฟนเพจ หนังโปรดของข้าพเจ้า และ Drama Addict